ขอเชิญเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ Anthroposophic Medicine, Waldorf Education and Personal Spiritual Development

กลุ่มการศึกษาบำบัดแนวมนุษยปรัชญา ขอเชิญเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ

“Anthroposophic Medicine, Waldorf Education

and Personal Spiritual Development”

16 – 17 เมษายน 2554

ณ มูลนิธิต้นรักเพื่อเด็กพิเศษ

(โรงเรียนวรรณสว่างจิต ใกล้บิ๊กซี พระราม2 โทร 02 416 3166)

การแพทย์แนวมนุษยปรัชญาและการทำความเข้าใจว่าการศึกษาวอลดอร์ฟนั้นเปรียบเสมือนการป้องกันการเจ็บป่วย

องค์ความรู้เกี่ยวกับมนุษย์และความสัมพันธ์ของมนุษย์กับจักรวาลที่ดร.รูดอร์ฟ สไตเนอร์ได้มอบไว้ให้กับคนรุ่นหลัง  ได้รู้จักกันในนาม Anthroposophy (มนุษยปรัชญา)

ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานของการศึกษาวอลดอร์ฟ,  การเกษตรชีวพลวัต (Biodynamic Agriculture), ศิลปะการเคลื่อนไหวยูริธมี่, สถาปัตยกรรมแนวมนุษยปรัชญา, และอีกนานาสาขาความรู้  รวมทั้งการแพทย์แนวมนุษยปรัชญา (Anthroposophic Medicine)

เชิญมาร่วมกันเปิดประตูเรียนรู้ “มนุษย์” และทำความเข้าใจเอกภาวะแห่งความเป็นมนุษย์ที่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆบนโลก  เรียนรู้ความเจ็บป่วยในวัยเยาว์และวัยผู้ใหญ่  และตระหนักถึงความหมายของการศึกษาเพื่อสุขภาวะ  อีกทั้งร่วมเดินทางกลับเข้าไปสำรวจ “สุขภาวะภายใน”  ของเราเอง

สนใจรายละเอียดโปรดติดต่อ ครูอ้วน (อภินทร์พร กิตติพีรพัฒน์)

ที่ 086 302 0129    โปรดส่งใบสมัครมาที่ abhinpon@hotmail.com

สมทบค่าอบรม 2,200 บาท (รวมอาหารและของว่าง)

Download เอกสารรายละเอียดการอบรมและใบสมัครAnthroposophic Medicine คลิกที่นี่

แก้ไขข้อมูล การอบรม Biography Workshop By Jonathan Jordan

เรียน ท่านที่เคย Download เอกสารการสมัครเข้าอบรม Biography Workshop By Jonathan Jordan กรุณาแก้ไขเลขบัญชีธนาคารที่ใช้สำหรับโอนเงินค่าสมัคร โดย Download เอกสารฉบับใหม่ได้ที่Linkนี้

http://parentschool.files.wordpress.com/2010/12/biography_app1.doc

สำหรับ Link ที่อยู่ในตอนท้ายของตัวบทความตอนที่แล้วก็ได้แก้ไขให้แล้วเช่นกัน

การอบรมครูการศึกษาบำบัดตามแนวมนุษยปรัชญาหลักสูตร 3 ปี คอร์สที่ 6

การอบรมครูการศึกษาบำบัดตามแนวมนุษยปรัชญาหลักสูตร 3 ปี คอร์สที่ 6

(Teacher Training Program in Curative Education )

ณ มูลนิธิ ต้นรักเพื่อเด็กพิเศษ

(โรงเรียนวรรณสว่างจิต ใกล้บิกซี พระราม2 โทร 02 416 3166)

วันศุกร์ที่ 23 -วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม 2553

ปาฐกถาการศึกษาบำบัดของ รูดอร์ฟ สไตเนอร์ บทที่ 4 – 7 เป็นพื้นฐานความเข้าใจการศึกษาบำบัดและลักษณะของเด็กที่มีความต้องการพิเศษภาคต่อจากคอร์สที่ 3 ช่วยให้เกิดความเข้าใจเด็กที่มีความต้องการพิเศษและเห็นแนวทางในการเยียวยาผ่านเรื่องราวของกรณีศึกษา

การเขียนแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล ถือเป็นงานสำคัญของครูผู้สอนซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการกำหนดทิศทางการพัฒนาและสร้างให้เกิดความต่อเนื่องในการทำงานกับเด็กที่มีความต้องการพิเศษเป็นรายบุคคล การเขียนแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลเกี่ยวข้องกับความรู้ ได้แก่ ประสาทรับรู้ 12 แบบ กายทั้งสี่ของมนุษย์ การพัฒนาจิตใจและกายภาพ

สำหรับผู้สนใจการอบรมการศึกษาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษ โปรดอ่านตรงนี้!!

สำหรับผู้สนใจการอบรมการศึกษาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษ   โปรดอ่านตรงนี้!!


10 มีนาคม 2553
เรียน ผู้สนใจทุกท่าน
เนื่องจากมีข้อมูลมากมายอยู่ในเวปนี้  อาจจะทำให้ยากและสับสนในการอ่าน  ครูอ้วนเลยขอเขียนภาพสรุปคร่าวๆสำหรับผู้สนใจการศึกษาบำบัดที่กำลังจะเกิดขึ้นในต้นเดือนเมษายน 2553 นี้  ดังนี้ค่ะ

เรื่องที่ 1  ปาฐกถาพิเศษสำหรับผู้สนใจการศึกษาเพื่อเด็กพิเศษ

ขอนำเสนอแนวคิดใหม่ในการให้การศึกษาแก่เด็กที่มีความต้องการเป็นพิเศษ

ในวันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553  Jan Goeshel ร่วมกับ Becky Rutherford ซึ่งเป็นวิทยากรและเป็นครูผู้เชี่ยวชาญในด้านการสอนเด็กพิเศษตามแนวมนุษยปรัชญา  จะแสดงปาฐกถาเรื่อง
Transformative Relationship between the Child and the Educator ( มีการแปลภาษาไทย) ที่ห้องประชุม 101 คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  เวลา 15.30 – 18.30 น.    เปิดให้แก่ผู้สนใจทุกท่าน  และเป็นบทเริ่มต้นของผู้เข้าอบรมเชิงปฏิบัติการห้าวันต่อมาด้วยค่ะ

เรื่องที่ 2  การอบรมเชิงปฏิบัติการ 5 วัน

ส่วนผู้ที่เข้าอบรมการศึกษาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษ ใน workshop 5 วันซึ่งมี Jan Goeshel และ Becky Rutherford ร่วมด้วยนักศิลปะบำบัดของไทย คุณอนุพันธ์ พฤกษ์พันธ์ขจี
จัดขึ้นที่ห้องประชุมใหญ่โรงเรียนวรรณสว่างจิต  ถนนพระรามสอง
ผู้เข้าร่วมอบรมต้องเข้าฟังปาฐกถาในเย็นวันพุธที่ 7 เมษายน 2553 ที่ห้องประชุม  101 คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ด้วยค่ะ   และ นำบันทึกการสังเกตเด็กที่อยู่ในความดูแลหนึ่งคนติดตัวมาในการอบรมด้วยค่ะ  ซึ่งดูรายละเอียดได้จากโปรแกรมการอบรมการศึกษาบำบัดนะคะ

เรื่องที่ 3 การให้คำปรึกษารายเดี่ยว

การให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล(Individual Couselling) ได้เปลี่ยนแปลงวันเวลาดังนี้ค่ะ

คือ วิทยากรทั้งสองจะให้คำปรึกษาแก่ครอบครัวเด็กตอนเย็นของวันที่ 8-12 เมษายน วันละหนึ่งรายค่ะ    และวันที่ 16 เมษายน อีกสามราย   โปรดจองเวลาตั้งแต่บัดนี้ได้ที่คุณรวิมาศ  aerawimas@gmail.com มือถือ 081 499 6430

ขอบคุณในความสนใจค่ะ
ครูอ้วน

Thailand April 2010 Workshop Program

Aims:

This workshop is intended to introduce participants to

• A way of looking at the child that allows them to perceive meaning in challenging life circumstances
• The anthroposophical image of the human being as a tool for child observation
• The ‘Pedagogical Law’ as a fundamental principle in the transformative relationship between child and adult
• Basic aspects of self-development practices for educators
• An understanding of the relationship between child, adult and curative educational activity

แผนที่ สถานที่จัดอบรมเชิงปฎิบัติการ 5 วันและการให้คำปรึกษารายบุคคล

แผนที่แสดงที่ตั้ง สถานที่จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ๕ วัน อยู่ที่ห้องประชุมใหญ่โรงเรียนวรรณสว่างจิต

ห้องเรียนต้นรักตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนวรรณสว่างจิต ลงทางด่วนพระราม 2 มาตามเส้นทางถนนพระราม 2 ประมาณ 5 กม. ด้านซ้าย ถัดจาก บิ๊กซี พระราม 2 ทางเข้าโรงเรียนวรรณสว่างจิต

Tel: (081) 810-5243 , 02 4163666

แผนที่โรงเรียนวรรณสว่างจิต

อบรมเชิงปฏิบัติการ 5 วันกับ Jan Goeschel และ Becky Rutherford ร่วมด้วยนักศิลปะบำบัด: คุณอนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี

สำหรับครูการศึกษาพิเศษ  ผู้ปกครอง  นักบำบัด  และผู้สนใจการศึกษาตามแนววอลดอร์ฟ

ขอเชิญเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ 5 วันกับ Jan Goeschel และ Becky Rutherford ร่วมด้วยนักศิลปะบำบัด: คุณอนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี

การอบรมทั้งหมดมี   5 วัน  เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่  8-12  เมษายน  2553  (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและตารางกิจกรรมในแต่ละวันคลิกที่นี่)

ณ ห้องประชุมโรงเรียนวรรณสว่างจิต  ถนนพระราม2 (คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่)

ค่าลงทะเบียนสำหรับการอบรมเชิงปฏิบัติการ  5 วัน ท่านละ  5,000 บาท ( รวมอาหารกลางวัน อาหารว่าง และอุปกรณ์ในการอบรม)

โอนเงินบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์  สาขาย่อยอ่อนนุช   หมายเลขบัญชี 401 339 749 0

ชื่อบัญชี สิริมิตร ทวีปรังษีนุกูล     กรุณาแฟกซ์ใบ pay in ที่ โทร. 02 8969435

* ลงทะเบียนก่อนวันที่ ๘ มีนาคม  ๒๕๕๓  เหลือ ๔,๕๐๐ บาท**

สอบถามรายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่

สิริมิตร ทวีปรังษีนุกูล      เบอร์โทร   089 1260014   email:  sirimit.gl@gmail.com หรือ

รวิมาศ  ปรมศิริ        เบอร์โทร.   081 4996430   email:  aerawimas@gmail.com

Transformative Relationships between the Child and the Educator

Faculty of Education, Chulalongkorn University,

Tonraak Foundation for Children with Special Needs

And Thailand Waldorf Education Network (Special Education Group)

We gladly invite you to join a special public talk:

Transformative Relationships between the Child and the Educator

(as an introduction to Anthroposophic Curative  education)

Lecturers:

Jan Goeschel, MA.,  the director of the Camphill School of Curative Education, having  4 year professional training program in curative education, Pennsylvania USA.

Becky Rutherford, MS.,   a core member of the faculty and a curative educator and a tutor for the seminar at the Camphill School of Curative Education, Beaver Run, Pennsylvania USA.

Nowadays, education for children with special needs is mostly concerned with categorizing abnormalities and

จดหมายครูอ้วนเรื่อง การศึกษาบำบัด ฉบับที่ ๑

ได้รับ อีเมลล์จากครูอ้วนที่เขียนขึ้น เมื่อได้อ่านคำถามจากผู้อ่านท่านหนึ่งเกี่ยวกับความพยายามหาที่เรียนให้ลูกที่เป็นเด็กพิเศษเข้าเรียน  ครูอ้วนได้เล่าสิ่งที่ไปพบเห็นเมื่อไม่นานมานี้จาก ชุมชนในแนว Camphill และความเห็นของครูอ้วนต่อการเรียนร่วมกันระหว่างเด็กพิเศษกับเด็กปกติ  เชิญอ่านดูครับ

สวัสดีค่ะทุกๆคน

ครูอ้วนยังไม่ได้เปิดเทอมให้กับเมษาเลยเพราะเกิดอาการไม่สบายเป็นไข้หวัดใหญ่  ผลมาจากการเดินทางไกล และกิจกรรมทุกวันตลอดสองสัปดาห์ที่ โรงเรียนเพื่อเด็กพิเศษชื่อว่า Beaverrun ในรัฐเพนซิลวาเนีย อเมริกา (ชื่อเป็นทางการคือ The Camphill Special School)    เป็นชุมชุมในแนวแคมป์ฮิลล์  ซึ่งมีรากฐานแนวคิดมาจากดร.รูดอร์ฟ สไตเนอร์และดร.คาร์ล คูนิกที่เป็นศิษย์ของเขา   ดร.คาร์ล คูนิกเป็นแพทย์ที่ศึกษาด้านตัวอ่อนมนุษย์  และเป็นคนแรกที่ริเริ่มการอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนระหว่างคนพิเศษกับคนปกติ โดยนำเอาความคิดเรื่องมนุษย์และหลักการ Threefold social order ของรูดอร์ฟ สไตเนอร์มาใช้ในการบริหารจัดการชุมชนและโรงเรียน   โรงเรียนนี้มีตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมปีที่ ๖      ครูอ้วนไปอยู่ที่นั่นมาสองสัปดาห์ด้วยความอุปถัมภ์ดูแลเป็นอย่างดีของคุณครูเบ็คกี้และผู้คนในชุมชน  ซึ่งที่นั่น หมอนและครูเจี๊ยบก็เป็นนักศึกษาปีสองของการศึกษาบำบัดแนวมนุษยปรัชญานี้ด้วยค่ะ

ส่วนใหญ่แล้วครูอ้วนจะได้มีโอกาสเข้าไปสังเกตการณ์ในห้องตั้งแต่อนุบาลจนถึงชั้นโต  และรวมทั้งงานด้านการบำบัดด้วย   

บันทึก การศึกษาบำบัด (Curative Education) ที่ชุมชนแคมป์ฮิล ( Camphill )ในอเมริกา ตอนที่1

ครูอ้วน ที่ได้ส่งบทความมาลงในเว็บอยู่หลายครั้ง ได้เสนอที่จะช่วยเป็นผู้ดูแลเนื้อหา ทางด้านการศึกษาบำบัดในเว็บนี้    และได้เขียนคำนำไว้ดังนี้

ความมุ่งหมายของครูอ้วนในการนำเสนอบทความและเรื่องราวของนักเรียนไทย สองคนที่กำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนฝึกหัดครูสำหรับการศึกษาเพื่อเด็กพิเศษใน อเมริกา    เพื่อต้องการให้สังคมไทยได้มีทางเลือกในการจัดการศึกษาเพื่อเด็กกลุ่มนี้  และในอนาคตอาจจะเป็นไปได้ที่จะมีการรวมกลุ่มพ่อแม่ ครูและผู้สนใจจัดตั้งสถาบันเพื่อการศึกษาบำบัดและสร้างสรรค์ชุมชนที่อยู่ ร่วมกันระหว่างผู้ใหญ่และเด็กพิเศษขึ้นมาอีกแห่งค่ะ

ครูอ้วนเชื่อว่าสังคมเราแข็งแรงได้  ถ้าเรามีพื้นที่ให้กับการบ่มเพาะความรักความเมตตาในหัวใจของเรา  และด้วยความรักความเมตตาที่กอปรด้วยสติระลึกรู้   จะทำให้เรามีพลังมุ่งมั่นในการทำการสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อที่จะช่วยให้คนที่อ่อนแอกว่าได้มีพื้นที่ยืนเคียงข้างกันในฐานะมนุษย์ และปัจเจกชนคนหนึ่งไม่ว่าเขาจะพิการทางกายหรือบกพร่องทางจิตใจก็ตาม

จดหมายในครั้งนี้มาจากน้องหมอนค่ะ  เธอพำนักอยู่ที่อเมริกาเพื่อเรียนฝึกหัดครูการศึกษาบำบัดปีที่สอง  ลองอ่านเรื่องราวที่เธออยากแบ่งปันดูนะคะ

สวัสดีปีการศึกษาใหม่

สวัสดีค่ะ

ขอแนะนำตัวก่อนว่าหมอนเป็นนักเรียนไทยที่มาศึกษาด้านการศึกษาบำบัด (Curative Education) ที่ชุมชนแคมป์ฮิล ( Camphill )  แห่งหนึ่งในอเมริกา ปีนี้เป็นปีที่สองค่ะ ที่นี่มีนักเรียนไทยสองคนคือหมอน และ อีกคนคือครูเจี๊ยบที่หลายๆท่านคงรู้จักกันดี ในการเรียนที่นี่ทุกคนต้องทำงานกับเด็กพิเศษ โดยสังกัดเป็นบ้านซึ่งแต่ละบ้านจะทำงานกับเด็กในช่วงอายุต่างกัน คือ 7-12 ปี, 13-16 ปี และ 17-19ปี หรือจะลองคิดง่ายๆก็คือ บ้านเด็กประถม, เด็กมัธยมต้น และเด็กมัธยมปลายค่ะ พี่เจี๊ยบและหมอนทำงานอยู่บ้านคนละหลัง แต่อยู่ในกลุ่มอายุประถมเหมือนกันค่ะ

ตอนนี้ที่นี่อยู่ในช่วงปลายฤดูร้อน กำลังจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงซึ่งจะนับตั้งแต่วันที่ 21 กันยายนเป็นต้นไป ปีนี้ดูเหมือนว่าฤดูร้อนจะบอกลาไปเร็วกว่าปกติค่ะ เพราะสองอาทิตย์แรกของเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้นอากาศเย็นและครึ้มฟ้าครึ้มฝนแทบทุกวัน พอเข้าฤดูใบไม้ร่วงอากาศก็จะเย็นลง และจะเริ่มเห็นใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีเป็นส้ม แดง เหลือง สีม่วงก็มีนะคะ สวยงามมาก และกลางวันก็จะเริ่มสั้นลงเรื่อยๆ จนถึงวันที่กลางวันสั้นที่สุดในรอบปีซึ่งหมายถึงฤดูหนาวเข้ามาเยือนอีกครั้งนั้นเองค่ะ